จำเป็นหรือไม่ที่ต้องใช้ Gaming Gear?
ในยุคที่วงการ Esports เฟื่องฟูแบบในปัจจุบันนี้ ไม่น่าแปลกใจที่อุปกรณ์สำหรับเครื่อง PC ที่ใช้ในการเล่นเกมนั้นจะมีมาให้เลือกใช้งานมากมายหลายแบรนด์ด้วยกัน ทั้งราคาเป็นมิตรกับคนทุกระดับ หรือ High End สเปกจัดเต็มก็มีเต็มไปหมด แต่เพราะเนื่องจากราคาของมันที่ค่อนข้างสูงกว่าอุปกรณ์สำหรับใช้งานบน PC แบบทั่วไปสักหน่อยทำให้หลายคนต่างสงสัย ว่าเรามีความจำเป็นแค่ไหนที่จะต้องซื้อหา Gaming Gear มาใช้งานกัน?
ซึ่งอันที่จริงแล้ว ถ้าคุณเป็นเกมเมอร์ตัวยง และมุ่งมันในชัยชนะของเกมที่เล่นบน PC การมี Gaming Gear ไว้ใช้งานจึงเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างช่วยไม่ได้ เพราะมีตัวเลือกในการปรับแต่งและความทนทานที่มากกว่าอุปกรณ์ทั่วไป ยกตัวอย่างง่าย ๆ เช่นเมาส์ ที่ปกติแล้วจะไม่สามารถปรับหรือตั้งค่า Dpi ผ่านทางตัวเมาส์ได้เลยโดยตรง หรือความเร็วที่อาจจะเทียบกันไม่ได้ เพราะเมาส์ใช้งานทั่ว ๆ ไปอาจมีค่า Dpi เพียงแค่ 300 เท่านั้น คนที่ต้องการความเร็วในการยิงของเกม FPS ก็อาจจะใช้งานไม่ได้กันเลย
หรือถ้าชัดกว่านั้นก็คงเป็นคีย์บอร์ด ที่ยุคนี้คีย์บอร์ดเล่นเกมกว่า 80% เป็นแบบ Mechanical Switch กันเกือบหมดแล้ว ทำให้ความลื่นไหลในการพิมพ์และความรู้สึกที่ดีกว่าคีย์บอร์ด Rubber Dome ธรรมดามาก แถมยังเพิ่มความสวยงามด้วยไฟและการออกแบบที่แข็งแรงกว่าแบบเทียบไม่ได้ ซึ่งก็แลกมาด้วยราคาค่าตัวที่สูงกว่าปกติด้วย ส่วนหูฟังเองก็มีหลากรุ่นที่รองรับเสียงรอบทิศทาง เพื่อการเล่นเกมที่สนุกขึ้น และไม่พลาดท่าถูกยิงจนตายแบบงง ๆ เพราะไม่สามารถจำแนกทิศทางได้นั่นเอง
ใช่ว่าข้อเสียของ Gaming Gear นั้นจะไม่มีเลย สิ่งหนึ่งเราเห็นได้ชัดเจนคือราคาค่าตัวของมันที่สูงกว่าอุปกรณ์ทั่วไปหลายเท่า คีย์บอร์ด Gaming Mechanical ที่ใช้งานได้ดีและเป็นแบรนด์ที่คนรู้จักทั่วไปก็อาจจะมีราคาขั้นต่ำประมาณ 2,000 บาทขึ้นไป ในขณะที่คีย์บอร์ดสำนักงานแบบ Rubber Dome ธรรมดา ๆ อาจมีราคาเพียงแค่ 150 บาทเท่านั้น และถ้าไม่ซีเรียสเรื่องความสบายในการใช้งานและไม่มีงบประมาณมากพอ เจ้าคีย์บอร์ดหรือเมาส์ธรรมดา ๆ ก็สามารถใช้งานแบบทั่วไปหรือเล่าเกมเบา ๆ ได้อย่างไม่มีปัญหาใด ๆ
แต่ถ้าหากจุดประสงค์ในการซื้ออุปกรณ์สำหรับใช้งานบน PC ของเราคือการเล่นเกมเป็นหลักแล้วล่ะ? ยังไงหลายคนก็คงนึกว่าการลงทุนกับ Gaming Gear น่าจะคุ้มค่ากว่าแน่นอน ซึ่งนั่นก็ถูก แต่ไม่ทั้งหมด เพราะเมาส์ดี ๆ บางตัวที่ไม่ได้ถูกผลิตมาเพื่อเจาะตลาดเกมเมอร์ในสมัยก่อนอย่าง Microsoft 3.0 ที่เป็นเพียงแค่เมาส์แบบ Optical แต่มีประสิทธิภาพและความแม่นยำที่เหลือเชื่อจนเป็นตำนาน ซึ่งผู้เล่นระดับโปรหลายคนในอดีตต่างก็เลือกใช้เมาส์รุ่นนี้ในการแข่งขันกันมากมายจนถึงทุกวันนี้ แม้จะไม่ได้มีตัวเลือกในการปรับแต่งผ่านโปรแกรมของเมาส์ใด ๆ ก็ตาม
หรืออย่างในปัจจุบันนี้ก็มีเมาส์หลายแบรนด์ที่อาจจะดูไม่เหมือนเป็น Gaming Gear แต่ก็มีประสิทธิภาพดีและใช้ยิงเข้าหัว Head Shot ในเกมได้บ่อย ๆ และทางผู้ผลิตบางเจ้าเองก็ก็มีการวางจำหน่ายผลิตภัณฑ์ Gaming Gear ในระดับราคาที่จับต้องได้ออกมามากมาย ทั้งแบบมีสายหรือไร้สาย(แต่ในยุคนี้ เมาส์ไร้สายทั่วไปที่ไม่ใช่รุ่นราคาแพงก็ยังคงมีปัญหาในเรื่องของอาการหน่วงอยู่ แถมยังไม่ค่อยทนทานอีก) ซึ่งไม่ต้องมีเงินเยอะขนาดหลักพันบาท แต่ก็สามารถเลือกซื้อ Gaming Gear ทั้งหูฟัง เมาส์ หรือคีย์บอร์ดที่มีคุณภาพไม่เลวมาใช้งานได้แล้ว
และถ้ามองลึกไปในด้านงานแข่งขันต่าง ๆ นักกีฬา Esports หลายคนเองก็จำเป็นต้องเลือกอุปกรณ์ที่เข้ามือหรือของสปอนเซอร์ผู้ให้การสนับสนุนเป็นหลักอยู่แล้วด้วยเหตุผลทางด้านการตลาดและตามสัญญาที่ระบุไว้ แต่ก็มีบางกรณีที่นักกีฬาบางคนเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่เข้ามือตัวเองมากกว่าของสปอนเซอร์ เพื่อผลการแข่งที่ดีขึ้น แต่ส่วนใหญ่แล้วในยุคนี้เราก็มักจะเห็นนักกีฬา Esports เลือกใช้งานอุปกรณ์ที่เข้ากับมือของตัวเองมากที่สุดโดยที่ไม่ได้สนใจของสปอนเซอร์เลยด้วยซ้ำในยุคนี้
พูดโดยรวมก็คือเราอาจไม่จำเป็นที่จะต้องทุ่มเงินจำนวนมากเพื่อใช้ Gaming Gear ราคาเรือนพันเรือนหมื่น ในการเล่นเกมหรือใช้งานทั่ว ๆ ไป แต่คุณภาพของสินค้า Gaming Gear หลายแบรนด์ก็ค่อนข้างจะสร้างความเชื่อมั่นแก่ผู้ใช้มากกว่าในด้านประสิทธิภาพและความทนทาน แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความอุปกรณ์ทั่ว ๆ ไปนั้นจะมีความทนทานต่ำกว่า Gaming Gear หรือของบางรุ่นก็อาจจะแพงกว่ากันได้เหมือนกันขึ้นอยู่กับการใช้งาน
เรียกว่าจะเอาเมาส์ทั่วไปไปใช้เล่นเกม FPS ก็ย่อมได้ หากเมาส์ตัวนั้นมันเข้ามือเรา สะบัดแล้วไปตามสั่ง หรือคีย์บอร์ดที่พิมพ์แล้วให้สัมผัสที่เราชอบที่สุด แม้จะกดไม่ได้พร้อมกันทุกปุ่ม หากพิมพ์แล้วให้ความรู้สึกที่เราชอบ ก็โอเคแล้ว แต่ถ้าไม่มีลูกเล่นหรือคำสั่งแบบที่เราต้องการ ก็อาจจะต้องยอมทุ่มเงินเพื่อซื้อของที่มีฟังก์ชั่นที่เราต้องการมาเพิ่มแทนต่อไป
สรุปกันอีกครั้งเพื่อให้เข้าใจตรงกันว่า เรามีความจำเป็นต้องใช้ Gaming Gear มากแค่ไหน ก็สามารถแบ่งได้ดังนี้
- ความต้องการ บางครั้งกิเลสก็สามารถระงับได้ด้วยการซื้อ ถ้าเป็นติ่งแบรนด์ไหน ก็จัดไปได้เลยตามศรัทธา
- งบประมาณ ยุคนี้เรามี Gaming Gearให้เลือกหลายแบรนด์ตามกำลังเงินที่มี และหลายแบรนด์ก็มีคุณภาพดีในราคาสบายกระเป๋า หากคุณสมบัติต้องตาและราคาต้องใจแล้ว ก็ไม่มีอะไรที่จะมาห้ามให้คุณซื้อมันได้
- จับหรือใช้งานแล้วเข้ามือถูกใจหรือไม่ โดยเฉพาะอุปกรณ์อย่างเมาส์ คีย์บอร์ดที่ต้องดูให้ถ้วนถี่เสียก่อน ถ้าซื้อมาแล้วเล็กไป พิมพ์ไม่สบายมือ ก็เท่ากับเสียเงินเปล่าอยู่ดี
- การใช้งาน ถ้าไม่เน้นเล่นเกม ทำแต่งานทั่วไป Gaming Gear จะเป็นสิ่งสุดท้ายที่คุณจะนึกถึง ประหยัดเงินไปอัปเกรดส่วนอื่นแทนน่าจะคุ้มมากกว่า
แต่ไม่ว่าคุณจะใช้ Gaming Gear เพื่อเล่นเกมหรือไม่ก็ตาม สิ่งที่ควรจำไว้ก็คือ ไม่ว่าอุปกรณ์ชิ้นนั้นจะมีราคาแค่หลักร้อย แต่ถ้าหากเราใช้งานมันแล้วถนัดมือ ก็เป็นเรื่องที่ยอดเยี่ยมมากแล้ว เหมือนกับในนิยายกำลังภายใน ที่มีคำกล่าวว่า สำหรับยอดจอมยุทธ์ ต่อให้เป็นแค่กิ่งไม้ ก็สามารถปราบศัตรูได้แล้ว เพราะกระบี่ที่ดีคือกระบี่ที่ผู้ใช้ถนัดมากที่สุดนั่นเองครับ
63Comments