ช่วงนี้ไม่ว่าจะหันไปไหน เกมแนว Battle Royale นั้นก็ยังคงได้รับความนิยมอยู่เสมอ ค่ายเกมไหนๆ ก็พัฒนาเกมแนวนี้ออกมาตีตลาดอย่างมากมาย ทั้งผู้ที่อยู่มาก่อนอย่าง PUBG หรือ Fortnite กระทั่งผู้ครองความยิ่งใหญ่บนมือถืออย่าง Freefire พูดได้เต็มปากว่าตอนนี้ Battle Royale จะยังอยู่คู่กับเราไปอีกนาน
แล้วมีหรือที่เจ้าพ่อเกมเดินหน้ายิงอย่าง Activision จะไม่สนใจตลาดนี้ ด้วยประสบการณ์และทีมงานที่มีอยู่ในมือ สร้างสรรค์ผลงานเกมเดินยิง Call of Duty มาแล้วหลายภาค มีชื่อชั้นเป็นเกมระดับโลก จึงไม่น่าแปลกใจที่พวกเขาจะดัดแปลงให้เกมของตัวเองกลายเป็นเกม Battle Royale กับเขาด้วย โดยก่อนหน้านี้ก็มี Black Ops 4กับโหมด Black Out แสนสนุกตื่นเต้นเร้าใจ ซึ่งผลงานชิ้นนี้ทำให้ผู้เล่นหลายคนรู้สึกว่า ถ้าหาก Activision ลงมาลุยตลาด Battle Royale จริงจังจะน่ากลัวขนาดไหน
ทำให้ในปีนี้เราได้เห็นการลุยตลาด Battle Royale อย่างเต็มรูปแบบของ Activision ด้วยการปล่อยโหมดการเล่นใหม่ให้สนุกกันฟรี นั่นก็คือ Call of Duty: Warzone นั่นเอง
Warzone เป็นโหมดการเล่นใหม่ที่มีเกม Call of Duty: Modern Warfare เป็นพื้นฐาน หากผู้เล่นมีเกมหลักอยู่แล้ว ระดับเลเวลและอื่น ๆ ที่เล่นในโหมดนี้จะถูกนับต่อทันที หรือถ้าหากเล่นแล้วถูกใจอยากอุดหนุนเพื่อเล่นโหมดอื่น ทุกอย่างที่ปลดไว้ก็จะเอาไปเล่นในโหมด Multiplayer ปกติได้เหมือนกัน เรียกว่าเปิดกว้างสำหรับผู้เล่นทุกระดับ ด้วยกติกาที่ยกระดับขึ้นมามากกว่าเดิม
เพราะเดิมทีเกม Battle Royale นั้นจะรับผู้เล่นได้สูงสุดแค่ 100 เท่านั้น แต่เกมนี้แหวกกรอบจากเดิมโดยเพิ่มเป็น 150 คน ซัดกันให้หายอยาก ที่สำคัญผู้เล่นสามารถเอกจัด Loadout อาวุธ ความสามารถ และอุปกรณ์มาใช้ในโหมดนี้ได้อย่างอิสระ ถนัดอาวุธอะไร ชอบเล่นแบบไหน แค่ซื้อกล่อง Loadout ก็จะได้อาวุธชุดที่ต้องการทันที ไม่ต้องไปวนหากล่องเก็บอาวุธอีกต่อไป
อีกอย่างที่แตกต่างจากเกม Battle Royale อื่นก็คือระบบร้านค้า ผู้เล่นสามารถเก็บเงินนำไปซื้อของช่วยเหลือจำพวก Killstreak ที่อยู่ในเกมหลักมาใช้ได้ เช่น UAV ระบุตำแหน่งของศัตรู เกราะ กล่อง Loadout เรียกเครื่องบินทิ้งระเบิด หรือกระทั่งซื้อเกิดให้เพื่อนได้ถ้าหากเพื่อนของเราพลาดท่าโดนยิงตายไปเสียก่อนแล้วแหกคุกมาไม่ได้ ซึ่งเงินในเกมจะเก็บได้จากกล่องหรือทำภารกิจเสริม เช่นล่า Bounty เปิดกล่อง และอีกมากมาย ใครที่ขยันเก็บเป้าหมายอื่นจะมีเงินเหลือเฟือเหลือใช้ไปจนจบเกมกันเลย
ด้วยความเร็วในการยิงต่อสู้ของเกมที่รวดเร็วเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ทำให้หลายคนชื่นชอบมาก เพราะยิงได้มันส์ ยิงเก็บกันเร็ว เสี้ยววินาทีเดียวก็ล้มลงไปกองได้เลย และที่น่าสนใจก็คือผู้เล่นที่พลาดท่าโดนยิงตายไปรอบหนึ่ง จะมีโอกาสแก้ตัวในคุก Gulag ดวลกันตัวต่อตัวกับคนที่พลาดมาก่อนหน้า ใครชนะก็จะได้กลับไปเล่นใหม่อีกรอบ เรียกว่าถ้าเก่งจริง ยังไงก็มีโอกาสที่สองให้เสมอ
แล้วสำหรับคนที่สนใจ แต่ไม่เคยเล่น Call of Duty มาก่อนจะปรับตัวได้ไหม? ก็ต้องบอกว่าถ้าคุณเป็นเกมเมอร์ที่ชื่นชอบการเล่นเกมแนว FPS เป็นทุนเดิมจะไม่มีปัญหาแน่นอน แค่อาจต้องฝึกวิธีการยิงให้คล่องมือก่อน เพราะเราต้องอาศัยการเล็งยิงแบบ Aim Down Sight เป็นหลัก แต่ระยะในการยิงยังเน้นไปที่กลางกับไกลเหมือนเดิม สิ่งที่ต้องทำคือปรับวิธีการยิงให้คล่องมือ ส่วนแผนต่าง ๆ ก็ปรับตามความเหมาะสม เพียงแต่ต้องระวังของจำพวก Killstreak ที่จะมาแก้ทางการเล่นของเราไว้ให้ดีด้วย
เรียกว่าถ้ามั่นใจในฝีมือการยิงอยู่แล้ว ก็ไม่มีปัญหาอะไรในการมาสนุกกับเกมนี้แน่นอน และในเวลานี้ผู้เล่นก็เพิ่มสูงมากจนถึงหลัก 30 ล้านคนไปแล้วเรียบร้อย
ส่วนในอนาคตข้างหน้านี้ ตัวเกมน่าจะมีการอัปเดตแผนที่อื่นๆ ให้เล่นกันเพิ่มอีกแน่นอน เพราะตอนนี้มีเพียงแค่แผนที่เดียวให้เล่นคือ Verdansk ซึ่งขนาดของมันนั้นใหญ่พอประมาณ มีชัยภูมิหลากหลาย และมีโอกาสเจอกับผู้เล่นอื่นไว เชื่อได้ว่าการอัปเดตของเกมนั้นจะมีอย่างต่อเนื่องอย่างแน่นอน เพราะล่าสุดนี้ทางทีมงานได้เพิ่มโหมด Solo ให้สำหรับสายลุยเดี่ยวที่ไม่มีเพื่อนเล่นด้วย และอาจจะมีโหมด Duo เพิ่มมาอีก รวมไปถึงแผนที่ใหม่ออกมาให้ได้สนุกกันต่อเนื่องด้วยเหมือนกัน
แม้เวลานี้หลายคนจะบอกว่าจุดสูงสุดของเกมแนว Battle Royale ได้ผ่านไปแล้ว แต่ Call of Duty: Warzone ก็ทำให้เราเชื่อว่าเกมแนวนี้จะยังมีชีวิอตอยู่ไปอีกนานทีเดียวครับ
40Comments