หากเราพูดถึงเกมต่อสู้ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในปัจจุบันนี้ ชื่อของ Street Fighter จาก Capcom ก็ยังคงเป็นเบอร์หนึ่งยืนอยู่หัวแถวของการแข่งขันเกมต่อสู้ที่จัดแข่งมาอย่างยาวนานถึงปัจจุบัน ด้วยจำนวนเงินรางวัลรวมสูงสุดและฐานผู้เล่นทั่วโลกที่มีอย่างมหาศาล ยอดผู้ชมที่ยังคงสูงอย่างต่อเนื่อง ส่งหนุนให้การแข่งขัน Capcom Cup นั้นได้รับความสนใจตลอดทุกปี

ทว่าในช่วงหลังมานี้ Capcom กลับดูเหมือนว่าจะเดินไม่ถูกทาง แม้จะยังไม่สูญเสียความเป็นอันดับหนึ่งไป แต่บัลลังก์ที่พวกเขาถือครองก็กำลังสั่นคลอนอย่างเห็นได้ชัด

เพราะอะไรถึงเป็นแบบนั้น? เรื่องนี้ถ้าจะให้ไล่เรียงลำดับเหตุการณ์นั้นถือว่ามีปัญหามาอย่างยาวนาน อันเนื่องมาจากตัวของเกม Street Fighter V เอง ที่พยายามปรับเปลี่ยนระบบการเล่นให้เข้าถึงคนเล่นกลุ่มที่ไม่มีพื้นฐานในด้านเกมต่อสู้สามารถเข้าถึงได้ หลังจากที่เกกกมในภาคสี่ที่ได้รับความนิยมนั้นมีความชันในการเรียนรู้ค่อนข้างมาก มีเทคนิคหลากหลายที่ผู้เล่นต้องศึกษา จนทำให้ช่องว่างระหว่างผู้เล่นใหม่และเก่าแตกต่างกันจนเกินไป

Street Fighter V ถูกพัฒนาด้วยความคิดที่ว่า อยากให้ผู้เล่นใหม่สามารถเข้าถึงเกมต่อสู้ได้ง่ายกว่าเดิม ไม่ว่าใครก็สามารถต่อกรกับผู้เล่นมือฉมังได้โดยที่ไม่จำเป็นต้องเรียนรู้ในเชิงลึกมากจนเกินไป หากพูดในภาษาของคนเล่นเกมแนว MOBA ก็น่าจนกล่าวได้ว่า Street Fighter V นั้นมี Skill Floor หรือจุดที่ผู้เล่นใหม่สามารถเรียนรู้ให้เข้าใจในตัวเกมที่ไม่ชันมาก จับสัก 3-4 ชั่วโมงก็สามารถเข้าใจระบบของเกมได้ทั้งหมดแล้ว

หากแต่การที่พวกเขาทำเช่นนั้นก็ทำให้สิ่งที่เรียกว่า Skill Ceiling หรือขีดจำกัดของผู้เล่นที่สามารถไปถึงได้นั้นต่ำลงมาด้วยเช่นกัน ทั้งที่จริงแล้ว เกมต่อสู้ที่ดีจำเป็นที่จะต้องมี Skill Floor ที่ต่ำเพื่อดึงดูดผู้เล่นใหม่ และ Skill Ceiling ที่สูงเพื่อให้ผู้เล่นที่ชำนาญแล้วสนุกกับมันได้นาน ๆ การดึงสิ่งดังกล่าวนี้ให้ต่ำลงมาทั้งคู่จึงทำให้เกมหมดความขลังไปปอย่างน่าเสียดาย

แม้ในช่วงที่ผ่านมาเราจะเห็นได้ว่า Street Fighter V เองก็เริ่มมีกระแสของผู้ชมที่ยังอยู่ในเกณฑ์สูง เพราะตัวเกมเองก็มีการเพิ่มระบบ ปรับสมดุลให้มีความลึกขึ้น แต่ก็ยังคงง่ายแก่การเข้าถึงอยู่ ทว่าสิ่งหนึ่งที่เราละเลยไปไม่ได้ก็คือเกมคู่แข่งในแนวเดียวกันอย่าง Tekken 7 ที่วางจำหน่ายตามหลังมาในปี 2017 แม้ในช่วงแรกความแรงของ Street Fighter V จะยังมากกว่า แต่พอเวลาผ่านไป กระแสก็เทไปยังเกมคู่แข่ง เพราะเนื่องจากตัวเกมนั้นดูได้สนุกเข้าใจง่ายกว่า คนเล่นก็สนุกกับเกมได้ไว ไม่ต้องมาวุ่นวายควงปุ่มทิศทางจนนิ้วพอง

แถมกระแสของ Tekken 7 เองดีวันดีคืน การประกาศอัปเดตตัวเกมก็มีความน่าสนใจและฮือฮามากกว่า โดนเฉพาะอย่างยิ่งตอนที่ประกาศเปิดตัว Geese Howard บอสจากเกม Fatal Fury จากค่าย SNK หรือกระทั่ง Noctis จาก Final Fantasy XV และ Negan จากซีรีส์ The Walking Dead เทียบกันแล้วการเปิดโฉมตัวละครใหม่จาก Street Fighter นั้นแทบจะเทียบกันไม่ได้เลย เพราะ Capcom เน้นไปที่การเปิดตัวเผยโฉมตัวละครหน้าเก่าเสียเป็นส่วนมาก เพราะกลัวว่าคนเล่นจะไม่ให้ความสนใจ

และนั่นก็ทำให้พวกเขาถูกคู่แข่งแซงหน้าไปได้ในที่สุด ไม่ใช่เพียงแค่ Tekken 7 เท่านั้น เกมอื่น ๆ ที่ทยอยออกมาในภายหลังอย่าง Mortal Kombat หรือแกมใหม่ล่าสุดอย่าง Granblue Fantasy Versus ก็เข้ามาดึงความสนใจจากผู้เล่น Street Fighter ไปเสียเกือบหมด

บัลลังก์ที่เคยมั่นคงของพวกเขา ถูกเขย่าและท้าทายอย่างต่อเนื่อง แถมคราวนี้คราวพ่ายแพ้ก็มาเยือนแบบเต็ม ๆ ด้วยยอดขายของเกมที่ถูกแซงไปอย่างอย่างดาย ในปี 2020 ด้วยเกมมหาชนอย่าง Super Smash Bros. ที่ยอดขายรวมทุกภาคอยู่ที่ 58.9 ล้านชุด Mortal Kombat 49 ล้านชุด และคู่แข่งอย่าง Tekken ที่แซงไปด้วยยอด 49 ล้านชุดเช่นกัน

เรียกว่ามองไปทางไหน Street Fighter ก็เป็นรองคู่แข่งอื่น ๆ แบบเทียบไม่ติดกันเลย

อย่างไรก็ตาม ภาพรวมและสิ่งที่ Street Fighter เป็นอยู่ในตอนนี้นั้นยังถือว่าพอทรงตัวไปได้ เพียงแต่ในเวลานี้พวกเขาไม่ใช่เสือนอนกิน ชื่อ Street Fighter ไม่ได้การันตียอดวิวที่สูงเหมือนสมัยก่อนแล้ว มีตัวเลือกอื่น ๆ ที่น่าสนใจผุดขึ้นมามากมาย และไม่ต้องพูดถึงการแซงหน้าขึ้นมาผงาดเหนือเกมแนวอื่นอย่าง FPS หรือ MOBA เลย เพราะแค่เกมแนวเดียวกันเองยังแพ้เสียหมดรูปขนาดนี้

แต่อย่างไรก็ตาม การมาของเกมภาค Champion Edition ที่ให้เราได้เห็นอะไรที่หลากหลายขึ้น การปรับสมดุลและแก้ไขระบบการเล่นใหม่ ด้วยการเพิ่มระบบ V Skill II ขึ้นมา ช่วยเพิ่มความลึกในการเล่นไปอีกขั้น และยังมีตัวละครน่าสนใจเป็นบอสจากภาคเก่าอย่าง Gil และ Seth มาให้เล่นกันด้วย และในงาน EVO Japan 2020 ก็ยังมีผู้เล่นที่ให้ความสนใจและเลือกตัวละครเข้าแข่งหลากหลายมากขึ้นกว่าเก่า รวมไปถึงงานแข่ง Capcom Cup ก็ยังได้รับการสานต่อความสนุกเหมือนเช่นเคยในปีนี้

แต่นี่เป็นเพียงด่านแรกเท่านั้นที่ทางทีมงานต้องเจอ แถมยังเป็นปลายยุคของ Street Fighter V ซึ่งทาง Capcom เองก็น่าจะเตรียมเปิดตัวภาคใหม่ในเร็ว ๆ นี้อยู่แล้ว และเชื่อว่าพวกเขาจะไม่ยอมทำพลาดอีกเป็นครั้งที่สองแน่นอน เพราะถ้าหากพลาดอีก คราวนี้คู่แข่งเจ้าอื่นจะแซงพวกเขาขึ้นไปแบบไม่เห็นฝุ่นและไม่มีทางไล่ได้ทันอย่างแน่นอน