“แม่งโง่ชิบหาย เล่นแบบนั้นทำไมวะ ทำแบบนี้ก็ชนะแล้ว” นี่คือหนึ่งในข้อความมากมายที่เกิดขึ้นเมื่อทีมอีสปอร์ตทีมใดทีมหนึ่งเล่นพลาดให้เหล่าคนดูเห็น ข้อความที่ไหลยิ่งกว่ากระแสน้ำถึงแม้คนแข่งจะไม่รู้ตัว แต่ก็ทำให้คนดูอีกหลายคนยอมปิดช่องแชทเพื่อดูเกมอย่างมีความสุข

นั่งบ่นอยู่หน้าจอย่อมง่ายกว่าพาตัวเองเข้าไปอยู่ในจุดนั้น เป็นความจริงที่ไม่มีใครหลีกเลี่ยงได้ไม่ว่าจะในวงการกีฬาแบบไหนก็ตาม มีเพียงผู้เล่นไม่ถึง 0.01% ของแต่ละเกมเข้าไปถึงระดับโลก หรือพูดได้เต็มปากว่าตัวเองเลี้ยงชีพด้วยการเป็นนักกีฬาอีสปอร์ต แต่คนอื่น 99.99% ที่ไม่สามารถไปถึงจุดนั้นได้ เหตุใดจึงกล้าพูดและวิจารณ์จนเป็นเรื่องปกติว่าคนเล่นหมูคนดูเซียน

คำถามคือมันถือว่าเป็นเอกลักษณ์ที่ไม่มีใครอยากให้มีของการแข่งขันอีสปอร์ตหรือไม่ แล้วมันเกิดขึ้นเพราะอะไร คนดูถึงแม้โดยเนื้อแท้จะเล่นอ่อนกว่าแบบชัดเจน ยังกล้าด่าและว่าผู้เล่นแทบจะทุกครั้งไป

น้อยคนจะรู้จักว่าเราคือใคร

ลองคิดว่าในจำนวนคนดูการแข่งนับหมื่นมีข้อความของคุณแทรกเข้าไปพร้อมด่านักกีฬาอย่างถึงพริกถึงขิง ข้อความนั้นจะถูกปัดตกอย่างรวดเร็วเพราะนั่นไม่มีใครรู้จักว่าคุณคือใคร ซึ่งในส่วนนี้จะเห็นได้ชัดว่าในแชทกลุ่มที่เป็นการสมัครไอดีแบบไม่เปิดเผยตัวตนอาทิเช่น Twitch หรือ Youtube จะมีเหล่าเกรียนคีย์บอร์ดพร้อมถล่มถ่มถุยมากเป็นพิเศษ ต่างจาก Facebook ที่เป็นหน้าโปรไฟล์ในชีวิตประจำวัน จึงไม่ค่อยมีใครกล้าจะด่าหรือวิจารณ์แบบตรงๆมากนัก

            เมื่อนำไปเทียบกับในชีวิตจริงแล้วก็ดูจะเป็นไปได้มากขึ้น ยิ่งเรารู้จักเป็นการส่วนตัวกับผู้ถูกวิจารณ์น้อยเท่าไหร่ยิ่งกล้าที่จะพูดแบบไม่ถนอมน้ำใจมากขึ้นเท่านั้น กลับกันเราคงไม่เดินไปด่าเพื่อนร่วมงานว่าทำมึงมันโง่แบบนี้ทำอะไรก็ไม่ได้ ในขณะที่ตัวเองยิ่งเป็นมากกว่าเขาคนนั้นเสียอีก

            การมีกำแพงในโลกโซเชี่ยล หรือการด่าแบบลอยๆ โดยเจ้าตัวไม่ได้ยินนั้นจึงมีมากกว่าปกติ ยิ่งตามตัวคนด่าไม่ได้ยิ่งเข้าไปกันใหญ่

padkaprao หนึ่งในยูสเซอร์ที่ตามป่วนเหล่าโปรมานานจนตอนนี้ก็ยังไม่รู้ว่าเป็นใคร

 

มันอยู่ใน DNA และกมลสันดาน

            ถ้าไม่บรรลุเป็นพระอรหันต์ หรือละทางโลกพร้อมขึ้นสวรรค์ไปอยู่กับพระเจ้า อย่างน้อยหากมีเรื่องไม่พอใจอะไรเราก็ต้องบ่น หรือสบถถึงสิ่งนั้นบ้างเป็นการระบาย บางคนอาจจะคิดว่ามันเป็นแค่การตอบโต้ซึ่งสั่งสมมาจากพื้นฐานทางสังคม แต่แท้จริงแล้วในตัวมนุษย์ทุกคนมีสิ่งนี้อยู่ด้วยกันทั้งหมด

            จากงานวิจัยของ Dr.Richard Stephens หัวหน้างานวิจัยภาคจิตวิทยาประจำมหาวิทยาลัยคีล ประเทศสหรัฐอเมริกาได้ออกบทความงานวิจัยในวารสาร The Journal of Pain ว่าการบ่น ด่า หรือแม้กระทั่งการชูไม้ชูมือสัญลักษณ์ต้องห้ามจะช่วยให้คนทนกับความเจ็บปวดได้นานขึ้นได้

            ซึ่งในงานวิจัยจะใช้การเอามือไปแช่ในน้ำแข็ง คนที่แช่ไปบ่นไปจะมีสัญญาณทางสมองว่าไม่ตื่นตัวให้รับความเจ็บปวดมากเท่าคนที่แช่อยู่อย่างเงียบๆ ซึ่งทำให้บ่งบอกได้ว่ามนุษย์มีการควบคุมอารมณ์เบื้องต้นรวมถึงสารในสมองให้ออกฤทธิ์คล้ายยาแก้ปวด ผ่านทางการระบายออกด้านนอก แม้ว่าจะไม่มีคนรับฟังก็ตาม

            แต่ถึงกระนั้นด้วยความที่เหมือนยาแก้ปวด ยิ่งใช้ยิ่งได้ผลน้อยการด่าทอจึงต้องทวีความรุนแรงมากขึ้นและยาวนานขึ้น เพื่อปรับอารมณ์ให้เข้าสู่สมดุล ก็คงเป็นเหตุว่าทำไมแต่ละคนถึงมีความกล้าจะด่าต่างกัน ตามปริมาณการใช้งานกลไกส่วนนี้ และลักษณะสังคมที่เติบโตมาประกอบร่วมด้วย

รักมากก็ผิดหวังมาก

            ลองสังเกตว่าการด่าแบบสาดเสียเทเสียในบ้านเราจะไปอยู่กับใครเป็นพิเศษ คำตอบก็คือทีมไทยเราจะเห็นว่า ถ้าเป็นทีมต่างชาติ เหล่าแฟนคลับก็คงจะบ่นบ้างเป็นบางครา แต่พอเป็นทีมไทยเท่านั้นแหละ แค่เข้าไปแข่งได้ก็เหนื่อยแล้ว กองเชียร์ที่พร้อมพลิกกลับมาถล่มได้ตลอดเวลาก็มีสาเหตุมาจากพวกเขาตั้งความหวังไว้สูง เมื่อหวังสูงก็ตกลงมาแรง ทำให้มีอาการเจ็บปวดมาก เมื่อนำไปเทียบกับงานวิจัยก่อนหน้า ถ้อยคำในลักษณะนี้จึงออกมามากกว่าปกติ รวมทั้งรุนแรงและหยาบคายอีกด้วย

            ซึ่งสำหรับช่องแชทต่างชาติก็ไม่ได้มีความต่างมากนัก ยิ่งฝั่งจีนดินแดนลึกลับ เคยมีถึงขนาดด่าพ่อ ล่อแม่ หรือขู่ทำร้ายกันเลยก็มีเช่นกัน

สภาพเมื่อทีม MiTH.PUBG ถูกยิงออกเป็นอันดับที่ 16/16

 

ยุคสมัยของเทคโนโลยี

            อันแท้จริงแล้วคำว่าคนเล่นหมู คนดูเซียนมีมาแต่ช้านานก่อนการแข่งขันอีสปอร์ตจะก่อตัวเป็นรูปเป็นร่างเสียอีก แต่ด้วยเทคโนโลยีสมัยก่อนหน้า หรือในยุคการถ่ายทอดสดไม่ลื่นไหลดั่งปัจจุบัน หากคุณด่าก็จะมีเพียงไม่กี่คนได้รับรู้ อาจจะเป็นคนในงานแข่งที่อยู่ข้างคุณ หรือเป็นคนในบ้านซึ่งนั่งดูโทรทัศน์ร่วมกันอยู่

            แต่พอแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งหรือการถ่ายทอดสดพัฒนาขึ้นทำให้ทุกคนเข้าถึง และสามารถโต้ตอบกับผู้ชมท่านอื่นได้แบบทันทีทันใดนั่นทำให้เราเห็นปริมาณคำด่า ว่าคนเล่นเป็นหมู ตัวเองอยู่ในบ้านเป็นดั่งพระเจ้ามากขึ้นเป็นเงาตามตัวไปด้วยนั่นเอง

กีฬาอื่นก็เช่นกัน

            ไม่เพียงแต่อีสปอร์ต คนเล่นหมู คนดูเซียนมีแทบจะทุกประเภทกีฬา ถ้าเอาใกล้ตัวบ้านเราก็คือฟุตบอล สุดยอดกีฬายอดฮิต ไม่ว่าจะทีมในพรีเมียร์ลีก แมนยู อาร์เซน่อล สเปอร์ส ไล่ถ่มถุยทั้งผู้เล่น ผู้จัดการทีม บอกทำไมไม่จัดแผนนู่นนี่ หรือส่งไอ้ตัวนี้ลงทำไม

            ตัดมาฟุตบอลทีมชาติบ้านเรา โค้ชนิชิโนะซึ่งทำผลงานได้ในระดับสุดยอดเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายยู-23 ชิงแชมป์เอเชีย แต่ก่อนหน้านั้นในซีเกมส์ผลงานไม่ดี ไม่ใช่แค่แฟนบอลเท่านั้น เหล่าเซียนในหน้าหนังสือ หรือคีย์บอร์ดต่างบอกว่าโค้ชจากแดนปลาดิบผู้นี้ไม่ใช่ของจริง ไม่ยอมส่งตัวผู้เล่นที่เหมาะสมลงแข่ง และตั้งฉายาว่าซามูไรพลาสติก ถึงกระนั้นโค้ชนิชิโนะก็ไม่ได้แคร์อะไรมุ่งหน้าทำงานแสดงถึงทรรศนะที่เหนือกว่าไปอีกก้าว จนคนที่ตั้งฉายาถึงกับต้องหุบปากเงียบกันเป็นแถบ

 

หรืออีกหนึ่งเรื่องขำขันของคนเล่นหมู คนดูเซียน เมื่อมีกองเชียร์ตัวยงของทีมเวสต์แฮม ยูไนเต็ด นามว่า สตีฟ เดวิส ซึ่งที่นั่งของเจ้าตัวดันไปใกล้ผู้จัดการทีมในตอนนั้นอย่าง แฮร์รี่ เรดแน็ปป์ ทำให้คำด่าของเขาทั้งหมดเข้าหูแบบครบถ้วนสมบูรณ์ เพราะพี่แกเล่นด่าตั้งแต่นักเตะ ยาวยันตัวเรดแน็ปป์เองเสียด้วย ด้วยความเป็นเกมอุ่นเครื่อง เรดแน็ปป์เลยเดินไปหาสตีฟ แล้วบอกว่าเตะบอลเก่งเหมือนปากหรือเปล่า ลงไปเล่นเองเลยสิ

            แต่เรียกว่าฝันเป็นจริงก็ว่าได้ เพราะเจ้าตัวดันตะบันประตูเข้าไปเต็มๆ ถึงแม้ในตอนหลังจะถูกเชคว่าเป็นลูกล้ำหน้า แต่ประสบการณ์ครั้งนั้นทำเอาเจ้าตัวหายจากอาการปากดีเป็นเซียนข้างสนามเลยทีเดียว

สรุปแล้วการที่คนดูโชว์ความเป็นช่องแชท 10k หรือเซียนอะไรก็ตามแต่ ส่วนคนเล่นเป็นได้แค่หมูก็ไม่ใช่เรื่องใหม่แต่อย่างใด มีทุกในประเภทกีฬาและการแข่งขัน เพียงแต่จะมากหรือน้อยต่างกันตามบริบท ซึ่งเมื่อประกอบเหตุผลทั้งหมดรวมกัน ทำให้เราเห็นช่องแชทสายเทพคีย์บอร์ดจำนวนมหาศาลนั่นเอง

อ้างอิง

http://www.soccersuck.com/boards/topic/1537374/1

https://www.thairath.co.th/sport/others/1738010

https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pubmed/19590391

https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pubmed/30530911

https://www.theguardian.com/football/blog/2013/sep/05/harry-redknapp-played-fan-west-ham

ขอบคุณรูปภาพ

Twitch Omugg

Twitch FPSThailand